นักมวยชื่อดัง นักมวยแชมป์โลกคนที่ 10 ของไทยที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดีด้วยความสามารถและทักษะในการชกมวยที่คว้ารางวัลมามากมาย เขาคนนั้นจะเป็นใครกัน?
นักมวยชื่อดัง หากพูดถึงนักมวยชื่อดัง เราคงไม่ต้องพูดถึง นักมวยต่างประเทศ แต่เราจะพูดถึงนักมวยไทย ซึ่งถือว่านักมวยของไทยเรานั้น มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยทักษะและความสามารถ ในการชกมวยด้วยลีลามวยไทย เกินกว่าจะบรรยายซึ่งจะมี นักมวยในตำนาน ที่ทุกท่านรู้จักเป็นอย่างดีนั่นก็คือ สามารถ พยัคฆ์อรุณ
ดีกรีแชมป์โลกคนที่ 10 ของคนไทย เขานั้นเริ่มวงการมวย ด้วยการหัดมวยไทยตั้งแต่ ที่เขามีอายุเพียง 11 ขวบ และได้ใช้ชื่อว่า สามารถ ลูกคลองเขต โดยที่สามารถนั้นได้ขึ้นชก มวยไทยเป็นครั้งแรกด้วยการเอาชนะ เพชรอรุณ ศิษย์นิมิต ด้วยการเอาชนะคะแนน
และหลังจากนั้นเราก็เริ่มขึ้นชกในแถบจังหวัดภาคตะวันออก และได้เดินทางมาชกในกรุงเทพ มาอยู่ในการดูแลของ ทรงชัย รัตนสุบรรณ โปรโมเตอร์ชื่อดัง และสามารถก็ชกได้สนุก สนาน และเอาชนะใจคนดูได้ไม่ยาก จนทำให้เขาประสบความสำเร็จ ในวงการชกมวยไทย
ด้วยการคว้าแชมป์สนามมวยเวทีลุมพินี 4 รุ่นด้วยกัน และเขาก็เปลี่ยนมาชกมวยสากลอาชีพ และขึ้นชกจนชนะคะแนน เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ รวมไปถึงการชนะน็อคได้ 9 ครั้ง มันทำให้เขาได้มีโอกาสรับมช้ชาติ ด้วยการได้ชิงแชมป์โลก ในรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวท
หรือในรุ่น 122 ปอนด์ ของสภามวยโลก WBC ด้วยการขึ้นชกกับ กัวดาลูเป้ พินเธอร์ นักมวยชาวเม็กซิกัน และสามารถเอาชนะด้วยการน็อก จนคว้าแชมป์โลกไปได้ในยกที่ 5 และกลายเป็นแชมป์โลกคนที่ 10 ของไทย
นักมวยชื่อดัง นักมวยที่มาพร้อมกับรูปร่างสูงโปร่งด้วยช่วงชกยาวทั้งแขนและขาได้รับฉายาว่า ขุนเข่าเสาโทรเลขเขาคนนั้นจะเป็นใคร?
ถ้าหากพูดถึง ขุนเข่าเสาโทรเลข คอมวยทุกท่านคงไม่มีใคร ที่จะไม่รู้จักกับ สุดยอดนักมวย ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก โดยที่เขามีชื่อจริงว่า ชรินทร์ สอนดี หรือชื่อเล่นว่า ต้อย นักมวยทีานนี้เขาเป็นนักมวย ที่มัรูปร่างสูงใหญ่ที่มาพร้อมกับ ช่วงชกยาวไม่ว่าจะแขนหรือขาและที่ขาดไม่ได้เลยก็คืออาวุธ ที่มีความอันตรายของเรานั่นก็คือ
เข่า จนทำให้เขาได้รับฉายาว่า ขุนเข่าเสาโทรเลข หรือ ขุนเข่าทะลายฟ้า ที่ถือว่ามีชื่อเสียงอย่างมาก ในวงการมวยไทยที่ สร้างผลงานจนทำให้เขานั้น หาคู่ชกได้ยากมากทำให้ ในการขึ้นชกแต่ละครั้งนั้น จะมีผู้ชมที่รอดูรอเชียร์จำนวนมาก โดนที่เขานั้นได้ขึ้นชกกับ นักมวยระดับแนวหน้า ของประเทศไทยมากมาย พร้อมกับการเอาชนะ
นักมวยระดับโลก ได้หลายๆคน ไม่ว่าจะเป็น ณรงค์น้อย เกียรติบัณฑิต ขาวสด ศิษย์พระพรหม สกัด เพชรยินดี หรือแม้แต่ สามารถ พยัคฆ์ อรุณ เขาก็ยังสามารถเอาชนะมาแล้วทั้งนั้น ด้วยความสามาาถของเรา มันทำให้เขาสามารถครองแชมป์ มวยไทยในรุ่นไลท์เวท
ของเวทีลุมพินี ด้วยการชนะ ขาวผ่อง สิทธิชูชัย ด้วยการครองแชมป์ ได้นานถึง 3 ปี แต่ก็ไม่มีใครที่เอาชนะเขาได้ แต่ตังเขาเองก็จึงมีการสละตำแหน่ง เนื่องากไม่มีผู้ท้าชิง จนกลายมาตำนานขอฃไทย ในเรื่องราวของวงการ มวยไทยที่ทีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ที่คอมวยทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี
นักมวยทีมชาติไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลเหรียญทอง จากการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นในกีฬาโอลิมปิก
เชื่อว่าคงไม่มีใครที่ ไม่รู้จักกับเขาคนนี้ นักมวยที่มาพร้อมกับคำว่า ไม่ได้โม้ ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก และคงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากเขาคนนี้ สมรักษ์ คำสิงห์ หรือ นาวาตรี สมรักษ์ คำสิงห์ ร.น. เขาเป็นอดีตนักกีฬาทีมชาติไทย และยังเป็นนักกีฬาคนแรก ที่สามารถคว้ารางวัลเหรียญทอง ในการการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น
ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 26 ซึ่งสมรักษ์นั้นมีพ่อที่เป็นนักมวยเก่า มันจึงได้ทำให้เขารับการฝึกวงการชกมวยไทยมาตั้งแต่เด็กๆ และได้ขึ้นชกมวยครั้งแรก ในตอนที่เขามีอายุได้เพียง 7 ขวบ ด้วยการขึ้นชกตามเวทีงานวัด จนได้รับโอกาสไปอยู่ค่ายของ ณรงค์ กองณรงค์ และเขาก็ขึ้นชกมวยไทย โดนใช้ชื่อชื่อว่า สมรักษ์ ณรงค์ยิม
แลถได้ย้ายไปอยู่ค่ายศิษย์อรัญ จนได้เข้ามาชกมวยในกรุงเทพฯ พร้อมกับการชกทั้งมวยไทยและมวยสากลสมัครเล่น ด้วยความสามารถและทักษะ มันทำให้เขาได้ขึ้นชกที่เวที เวทีราชดำเนินและเวทีลุมพินี และมีโอกาสขึ้นชกกับ นักมวยชื่อดังแห่งยุค
จนเขาได้ขึ้นชกมวยไทยครั้งสุดท้าย พร้อมกับกานชนะน็อค สุวิทย์เล็ก ส.สกาวรัตน์ ในยก 4 และได้เปลี่ยนมาชกมวยสากลสมัครเล่น พร้อมค่าตัว 180,000 บาท โดยสมรักษ์นั้นประสบความสำเร็จ ด้วยการคว้าแชมป์ประเทศไทย และเหรียญทองกีฬาแห่งชาติ
นักมวยที่คอมวยทุกท่านรู้จักกันเป็นอย่างดีรูปร่างเล็กแต่เชิงดีและมีลูกเตะเป็นอาวุธหลักโดยเฉพาะแข้งซ้าย
หากพูดถึงนักมวยที่มี อาวุธลับด้วยแข้งซ้าย หลายคนอาจรู้จักกันอย่างแน่นอน เขาคือ นักมวยยอดฝีมือ ที่มาพร้อมกับชื่อเสียงโด่งดัง ที่รู้จักกันในชื่อ ผุดผาดน้อย วรวุฒิ หรือชื่อจริงที่ว่า ผ่อน ออนกิ่งเพชร ซึ่งในเส้นทางการชกมวยของเขา เขามีโอกาสได้พบกับฝีมือกับ นักมวยไทยชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิชาญน้อย พรทวีวิสันต์ ไกรเกรียงยุค,
พุฒ ล้อเหล็ก แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ อภิเดช ศิษย์หิรัญ แต่ตัวเขาเองมีร่างกายที่เสียเปรียบ ด้วยรูปร่างที่มีขนาดเล็ก แต่มันก็ไม่ใช้ปะญกาในการชกมวย เพราะเขาเป็นนักมวยเชิงดี ที่มาพร้อมกับลูกเตะเป็นอาวุธ ยิ่งแข้งซ้ายด้วยแล้วคงไม่ค้องพูดถึง
เพราะมันทำให้นักมวยหลายๆคน ที่ขึ้นชกกับเขาล่วงไปตามๆกัน ด้วยเหตุนี้มันทำให้เขาได้รับฉายาว่า ไอ้หมูแข้งทอง พร้อมกับการทำสถิติในขึ้นชกทั้งหมด 100 กว่าครั้ง สามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 3 รุ่นๆ ไม่ว่าจะเป็น รุ่นฟลายเวท รุ่นจูเนียร์เฟเธอร์เวท
และในรุ่นจูเนียร์ไลท์เวท ของเวทีมวยลุมพินี อีกทั้งเขายังได้ขึ้นชกทั่วภาคอีสาน มากกว่า 60 ครั้ง แถมเขายังไม่แพ้ใครเลย ในตอนนั้นเขามีอายุได้เพียง 18 ปีเท่านั้น จนเขาเดินทางเข้าชกมวยที่กรุงเทพ และชกครั้งที่เวทีราชดำเนินในรายการเดิมพัน พร้อมกับการเอาชนะน็อค ด้วยการเตะก้านคอ และผลงานอื่นๆอีกมากมาย
สุดยอดนักมวยไทยชื่อดังที่โชว์ฝีไม้ลายมือเอาไว้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้าแชมป์เวทีมวยลุมพินี 6 สมัย
อีกหนึ่งท่านที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นักมวยแชมป์โลก ที่มีชื่อเสียงของไทยเราอย่าง นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ เขาเป็นเป็นสุดยอดนักมวยไทย ที่มาพร้อมกับฝีไม้ลายมือ และยังเป็นอดีตแชมป์เวทีมวยลุมพินี ในรุ่น 130 ปอนด์ ได้มากถึง 6 สมัย แถมยังไม่มีนักมวยคนไหน ที่สามารถลงแชมป์ได้เลย จนเขาต้องสละแชมป์ไปเอง
และเขายังยังเป็นอดีตแชมป์ สภามวยไทยโลกอีกด้วย ด้วยค่าตัวการชกสูงสุดถึง 260,000 บาท ในเส้รทางการชกมวยของเขา เริ่มต้นด้วยการชกตามพี่ชาย เคยแพ้น็อกยกแรก ในเวลาเพียงแค่ 33 วินาทีให้แก่ วังจั่นน้อย ส.พลังชัย จนเขาได้พัฒนาฝีมือขึ้น
และมีท่าไม้ตายนั่นก็คือ ไถนา ด้วยการจับขาของคู่ชก แล้วไถดันไปข้างหลัง จนทำให้เสียหลัก จนเขาได้รับฉายาว่า จอมไถนา ตากนั้นเขาได้สร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการเป็นแชมป์ ในรุ่นจูเนียร์ไลท์เวท หรือรุ่น 130 ปอนด์ ในเวทีลุมพีนี ที่ยาวนานถึง 6 ปีเลยทีเดียว
